สายตรงหัวหน้าภาคฯ หากต้องการสื่อสารโดยตรงถึงหัวหน้าภาคฯขอให้คลิก ที่นี่ กรอกรายละเอียดของท่าน ใน Contact Form แล้วจึงเขียนข้อความที่ต้องการ เนื้อหานี้จะส่งตรงถึงหัวหน้าภาคฯแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
3 AmpC β-lactamase เป็นเอนไซม์ที่สร้างจากแบคทีเรียกรัมลบ การทดสอบความไวทางห้องปฏิบัติการจะพบว่าเชื้อดื้อต่อยาทุกตัวในกลุ่ม penicillin, cephalosporin, cefoxitin และ β-lactamase แต่ยังไวต่อ carbapenem 3.
1 สายพันธุ์, NF 2 สายพันธุ์ ที่ยังไวต่อยา Cefotaxime เมื่อเทียบกับ Equivalent MIC Breakpoint มาตราฐานจาก NCCLS จากผลการศึกษานี้ยาปฎิชีวนะกลุ่ม Aminoglycosides (ยกเว้น Neomycin) น่าจะเป็นยาที่ยังใช้ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบได้ผลดีกับเชื้อหลายกลุ่ม ยกเว้นกลุ่ม Citrobacter freundii และกลุ่ม NF ซึ่งใช้ไม่ได้ผล สารต้านจุลชีพ แบคทีเรียแกรมลบ LOCATION CALL# STATUS Pharmaceutical Sciences Library: Project Sepr 13/36 ค45 LIB USE ONLY
66 MB Adobe PDF ดู/เปิด รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น
1 ใบส่งตรวจหนึ่งใบใช้สำหรับการตรวจหนึ่งชนิดเท่านั้น 2. 2 กรอกรายละเอียดในใบส่งตรวจ ให้ครบถ้วน และชัดเจน (ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือไม่ชัดเจน จะมีผล ต่อความถูกต้องและรวดเร็วของผลการทดสอบ รวมถึงอาจมีผลต่อการพิจารณาปฏิเสธสิ่งส่งตรวจดังกล่าว) 2. 3 หากมีความต้องการที่จะให้เพาะเชื้อดังต่อไปนี้ ให้ติดต่อล่วงหน้ามายังห้องปฏิบัติการ เพื่อเตรียมอาหารเลี้ยงเชื้อที่เหมาะสม - Bordetella pertussis - Brucella species - Corynebacterium diphtheriae - Helicobacter pylori - สำหรับการตรวจหา Neisseria gonorrhoeae จากตำแหน่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ระบบสืบพันธุ์ และตา ให้ระบุในใบส่งตรวจด้วย 2. 4 ในกรณีที่สิ่งส่งตรวจมาจากผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือมีการระบาดได้ง่าย ควรแจ้งให้ทางห้องปฏิบัติการทราบล่วงหน้า และติดเครื่องหมาย "Biohazard" บนภาชนะและใบส่งตรวจ บรรจุหลอดหรือขวดที่ใส่สิ่งส่งตรวจในถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง แยกใบส่งตรวจไว้นอกถุง ห้ามใช้ Staple เย็บถุง ควรใช้ถุงที่สามารถปิดได้ในตัว หรือรัดด้วยยางรัด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากร ข้อบ่งชี้ในการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ: 1. การย้อมสี ใช้ในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อเบื้องต้นก่อนที่จะได้ผลการเพาะเชื้อ การย้อมสีจะย้อมติดเชื้อทั้งที่มีและไม่มีชีวิต โดยจะรายงานการติดเชื้อ ลักษณะและการเรียงตัวของแบคทีเรียที่พบ 1.
สิ่งตรวจอื่น ๆ จะทดสอบความไวกับเชื้อก่อโรคที่พบไม่เกิน 2 ชนิด ในสิ่งตรวจเดียวกัน 3. 4 จาก genital tract จะทำการทดสอบความไวของเชื้อ Neisseria gonorrhoeae เชื้อ Listeria monocytogenes และ Staphylococcus aureus 3. 5 Rectal swab หรืออุจจาระ ทำการทดสอบความไวกับเชื้อ Edwardsiella tarda, Pleisiomonas shigelloides, Aeromonas species, Salmonella species, Shigella species, Vibrio species และ Enteropathogenic E. coli ที่แยกได้จากผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน 4. การทดสอบความไวของเชื้อวัณโรคต่อสารต้านจุลชีพ โดยแบ่งเชื้อวัณโรคและสารต้านจุลชีพที่ใช้ทดสอบเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 4. 1 เชื้อวัณโรคที่เป็น Slow grower เช่น M. tuberculosis, M. avium complex เป็นต้น จะทำการทดสอบความไวต่อยา isoniacid, rifampin, ethambutol, PAS, streptomycin และ ofloxacin 4. 2 เชื้อวัณโรคที่เป็น Rapid grower เช่น M. fortuitum, M. chelonae เป็นต้น จะทำการทดสอบความไวต่อยาที่ใช้กับเชื้อแบคทีเรียทั่วไป 5. การหาค่า Minimum Inhibitory Concentration (MIC) และ Minimum Bactericidal Concentration (MBC) เป็นการวัดความสามารถของสารต้านจุลชีพ ในการยับยั้ง หรือทำลายแบคทีเรีย ใช้ในกรณีของผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง เช่น septicemia, infective endocarditis และ meningitis เป็นต้น หรือใช้ในกรณีของเชื้อที่มีแผนความไวไม่แน่นอน และ/หรือ ดื้อสารต้านจุลชีพได้ง่ายหรือในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยสารต้านจุลชีพที่รายงานว่าไวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น 6.
กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ความไวต่อยาปฏิชีวนะรูปแบบใหม่และมีประสิทธิภาพสูงสำหรับ การทดสอบตัวอย่างทางคลินิกระดับจุลภาคด้วยวิธีการพิสูจน์เอกลักษณ์ภาพดิจิตอล ชื่อเรื่องอื่นๆ: Novel and high–throughput antimicrobial susceptibility method based on clinical microscale testing and digital image processing protocols ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: อาลักษณ์ ทิพยรัตน์ ภักดี สุขพรสวรรค์ อาณัติ ดีพัฒนา สมชาติ โชคชัยธรรม จักริน สุขสวัสดิ์ชน มารุต ตั้งวัฒนาชุลีพร มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
none: การวิเคราะห์ความไว (Sensitivity Analysis) คืออะไร? ไฮไลต์ แบคทีเรียหลายชนิดสามารถทนต่อยาปฏิชีวนะทั่วไปได้ ซึ่งหมายความว่ายาเสพติดไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ การวิเคราะห์ความไวเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เพื่อช่วยในการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วว่าแบคทีเรียสามารถทนต่อยาบางชนิดได้หรือไม่ อาจมีตัวอย่างจาก: ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บตัวอย่างเลือด ได้แก่: อ่อนไหว การวิเคราะห์ความไว (Sensitivity Analysis) คืออะไร? ไฮไลต์ แพทย์ต้องใช้การวิเคราะห์ความไวเพื่อช่วยในการรักษาเชื้อแบคทีเรีย การทดสอบช่วยให้แพทย์ของคุณคิดว่าจำเป็นต้องใช้การรักษาเพื่อฆ่าแบคทีเรียอย่างไร นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขาดูว่าแบคทีเรียมีความทนทานต่อยาบางชนิดหรือไม่ แพทย์สามารถใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ความไวเพื่อหายาที่เหมาะสมในการรักษาโรค แพทย์ใช้การทดสอบความไวในการตรวจหายาปฏิชีวนะที่เหมาะสมสำหรับการติดเชื้อและเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรียในยาปฏิชีวนะ ทั้งสองเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลของคุณ AdvertisementAdvertisement ใช้งาน การวิเคราะห์ความไวทำไมจึงทำได้?
บ่อยครั้งที่พบว่าการใช้ยาต้านจุลชีพเพื่อการรักษาโรคติดเชื้อนั้นไม่ได้ผล โดยที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเชื้อดื้อยา ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัย ดังนี้ 1. ปัญหาทางเภสัชวิทยา เช่นเกิดปฏิกิริยาต่อต้านกันของยาในร่างกาย หรือยาที่ใช้เกิดความเสื่อมฤทธิ์ เนื่องจากเกืดความไม่เข้ากันของยากับน้ำในร่างกาย 2. การวินิจฉัยโรคไม่ถูกต้อง 3. ปริมาณหรือขนาดการให้ยา และความถี่การให้ยา ตลอดจนวิธีการให้ยาไม่ถูกต้อง 4. เชื้อดื้อยา 5. ยาเกิดปฏิกิริยาลบล้างฤทธิ์กัน ในกรณีที่ใช้ยาหลายตัวร่วมกัน ขนาดการใช้ยาที่ถูกต้องสำคัญอย่างไร? ในการใช้ยาต้านจุลชีพเพื่อการรักษาโรคติดเชื้อให้ได้ผลได้ดีนั้น ข้อสำคัญอยู่ที่ระดับของยาในร่างกายจะต้องอยู่ในระดับที่จะให้ผลการรักษา และระดับของยาจะต้องคงอยู่ตลอดระยะเวลาการใช้ยา เรียกระดับของยาในเลือด คือ Minimum effective concentration (MEC) ซึ่งเป็นระดับของยาที่ออกฤทธิ์ต่อเชื้อ และเป็นระดับที่มีความปลอดภัยต่อสัตว์ ดังแสดงในกราฟที่ 1 ซึ่งยาต้านจุลชีพจะคงอยู่ในระดับที่ร่างกายสัตว์ต้องการหรือรักษารักษาโรคได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณของยา และความถี่การใช้ยา ของยาต้านจุลชีพนั้นๆ และชนิดของสัตว์ ที่มา: Mehrotra et al.
ได้แก่ CZ, MA, CTX, AMC, AN, GN, TN, NET, C, SKT เชื้อกลุ่ม Klebsiella pneumoniae ได้แก่ CZ, MA, CTX, AMC, TE, AN, GM, TM, NET, N, C, SKT เชื้อกลุ่ม Pseudomonas spp.